เคยรู้สีกกันบ้างไหมคะว่าทำงานมาก็มาก ทั้งทุ่มเท อดทน มุ่งมั่น สร้างสรรค์ แต่ทำไมประเมินผลออกมาไม่ดีเลย
ประสบการณ์การทำงานก็มากกว่า เงินเดือนก็สูงกว่า แต่ทำไมรุ่นน้องแซงล้ำข้ามมาเป็นหัวหน้าได้ …
อะไรคือประเด็นหลักที่ทำให้งานที่ทั้งทำทั้งทุ่มเทไม่เคยอยู่ในสายตาผู้บริหารเลย
เคยมีใครรู้บ้างว่าความกลัวที่มีติดตัวเราเป็นปัจจัยส่งผลต่อพฤติกรรม บุคลิกภาพ และความเชื่อที่ฉุดรั้งเรามิให้ผลงานออกมาอย่างสร้างสรรค์
วันนี้จะขอกล่าวถึงความกลัวที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มีติดตัวกันมาช้านานถ้วนทั่วทุกตัวคนซึ่งน้อยคนนักจะพอบอกได้ว่ารูปแบบผลงานกับแรงฉุดอันมาจากความกลัวเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกัน
ความกลัวเป็นเรื่องธรรมชาติ ความกลัวเป็นกลไกที่สามารถควบคุมความเป็นระเบียบวินัย และในขณะเดียวกันก็ยังอาจเป็นปัจจัยฉุดรั้งไม่ให้บรรลุผลสำเร็จได้
ความกลัวในตัวเราเป็น Universal Fear มี 3 ลักษณะ
ประเภทที่ 1 “กลัวไม่ดีพอ” เพื่อนร่วมงานกลุ่มนี้จะกลัวในเรื่องความถูกต้อง กลัวผิดชอบถูก จึงมุ่งเน้นเรื่องหลักวิชา มีความพิถีพิถันในงาน ความสมบูรณ์แบบ จึงมุ่งเน้นแก้ไข คลาดเคลื่อนต่อเวลาจนช้าไม่ทันการณ์
ประเภทที่ 2 “กลัวคนไม่รัก” ประเภทนี้เป็นเพื่อนร่วมงานกลุ่มตามใจเพื่อนใครนึกอะไรไม่ออกให้บอกมา จะรับปากรับคำทำให้ตลอด ยอมเสียเปรียบแล้วก็มานั่งทุกข์ใจว่าทำไม่ได้ ชอบสรรเสริญเยินยอพูดเกินความจริง ไม่คัดค้านว่าอะไรว่าตามกัน เอาอกเอาใจทุกคนอย่างทุ่มเท งานขาดประสิทธิภาพเพราะไม่ตรงตามเป้าประสงค์
ประเภทที่ 3 “กลัวไม่เข้าพวก” เป็นประเภททำตามกลุ่ม ตามสมัยนิยม ตามเสียงผลประโยชน์ ไม่ออกความเห็นก่อน ไม่สร้างสรรค์ ไม่กล้าตัดสินใจถ้าไม่มีเพื่อน เน้นกลุ่มมากกว่างานและความถูกต้อง ส่งผลให้งานขาดความถูกต้องในหลักการและถูกมองว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง
การมีความกลัวมากเกินไปจะทำให้เกิดความไม่กล้าแสดงออกไม่ว่าจะเป็นการแสดงความเห็นในที่ประชุม การรักษาเวลา การตรงต่อเวลา การแสดงความเห็นอย่างจริงใจ การรับผิดชอบ ฯลฯ ทำให้สูญเสียบุคลิกภาพก่อให้เกิดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ขาดความเป็นผู้นำ ขาดความคิดสร้างสรรค์ ผลงานไม่ประจักษ์ ขาดความสุขในการทำงาน
ทั้งนี้ทั้งปวงหากเราปรับเปลี่ยนด้วยการตระหนักรู้ตัวตน (Awareness) ยืดหยุ่น ยิ้มสู้ และกล้าเผชิญในเหตุการณ์ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น กล้าปรับเปลี่ยน ความกลัวก็จะมลายหายไปเป็นแรงสนับสนุนให้ผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนได้
ฟังดูไม่ยากเลย และหากต้องการเส้นทางลัดสู่ความสำเร็จ ก็อาจเชิญชวนใครบางคนเป็นโค้ชคู่คิดไปด้วยกัน เดินทางค้นหาแนวคิดคู่กันไปนะคะ
โค้ชอภิตา ชิตะปัญญา
อดีตผู้บริหาร ทีมบริหารผลงาน ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่มา: 3 Universal Fears by Anthony Robbins